ภาคที่ 5
ทริคการถ่ายภาพภาคสรุป ภาคที่ 5 ที่ดุเดือดเข้มข้นยิ่งขึ้น กับการถ่ายภาพย้อนแสงเรียกว่า อยากได้ลูกเสือต้องเข้าถ้ำเสือ ต้องกล้าได้กล้าเสีย ถึงจะได้ภาพที่แปลกแตกต่างออกไป
ลองนึกดูว่าทำไม เรามีแสงจากดวงอาทิตย์เพียงดวงเดียว มีแผ่นรีเฟล็ก 1 แผ่น ก็สามารถสร้างสรรค์ภาพออกมา ได้อย่างสวยงาม งั้นทำไมเราไม่จำลองแสงไฟแฟลชให้เหมือนแสงพระอาทิตย์ยามสาย8-9 โมง หรือ บ่าย 4-5 โมงเย็น ที่ย้อนแสงมาทางด้านหลัง ของนางแบบ จนเกิดแสงแฮร์ไลท์ สว่างไสว ยกแผ่นรีเฟล็กดีดแสงกลับเป็นฟิลอิน เพื่อเพิ่มรายละเอียดในเงามืดบนใบหน้าเพียงแต่เอาไฟแฟลชหัวโมโนที่มีไฟนำแสงสว่างๆ สักหน่อย
หากถ่ายภาพภายในสตูดิโอก็พอที่จะมองลักษณะของแสงที่สะท้อนกลับจากแผ่นรีเฟล็กได้ ในกรณีต้องการถ่ายครึ่งตัว ให้วางหัวไฟไว้ด้านหลังค้อนไปทางซ้ายหรือขวาเล็กน้อย โดยห่างจากตัวแบบประมาณ 1-2 เมตร แต่หากต้องการ ถ่ายภาพเต็มตัว ต้องเลื่อนหัวไฟออกห่างไปประมาณ 2-3 เมตรจากนั้นก็วางแผ่นรีเฟล็กไว้ฝั่งตรงข้ามให้ทำมุมกันพอดี เพื่อให้ได้แสงสะท้อนกลับสูงสุด เปรียบเหมือนเป็นแสงเมนไลท์ ส่วนอีกด้านหนึ่งก็ปล่อยให้สะท้อนกลับจากผนังห้อง
หรือปล่อยให้แสงต่อเนื่องรอบข้างผสมเข้ามา โดยใช้ชัตเตอร์สปีด ให้ต่ำลงก็จะมีผลให้ในส่วน เงามืดสว่างในกรณีที่สภาพแสงต่อเนื่องโดยรอบ หรือแสงกลางแจ้งนั้นมีค่าความสว่าง ที่ไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ถ้าหากต้องการให้ฉากหลังหรือแสงที่อยู่ในเงา มีน้ำหนักมืดที่สุดก็ให้ปรับสปีดชัตเตอร์ให้สูง ที่สุดเท่าที่กล้องรุ่นนั้นสัมพันธ์กับไฟแฟลช
ถ้าต้องการให้แสง ที่สะท้อนกลับนุ่มนวลก็ใช้ด้านสีขาว แต่ถ้าต้องการให้แสงแข็งหน่อย ก็พลิกแผ่นรีเฟล็กกลับไปอีกด้านเป็นสีเงิน ซึ่งน้องนางแบบก็ไม่ต้อง ทนตาหยีสู้กับแสงแดดที่รุนแรงสว่างตลอดเวลาอย่างต่อเนื่องแต่ถึงไม่มีไฟแฟลชสตูดิโอ ไฟแฟลชหัวค้อนทั่วๆ ไป ก็สามารถใช้แทนได้เช่นกัน เพียงปรับองศาการกระจาย ของแสงให้กว้างหน่อย แต่อาจจะเสียเปรียบไฟแฟลชสตูดิโอนิดหน่อยตรงที่ไม่มีไฟนำแสงเท่านั้นเอง อาจจะทำให้มองไม่เห็นแสงไฟแฟลชแฟร์ย้อนแสงเข้าเลนซ์ได้ เท่านั้นเอง แต่ถ้ามีแสงจากไฟนำ ก็ให้สังเกตแสงไฟที่ตกกระทบที่ผิวเลนส์ทดลองถ่ายภาพดูสักระยะหนึ่งก็จะเข้าใจ สามารถแก้ปัญหาแสงแฟร์นี้ได้ไม่ยากนัก อาจจะให้ใครสักคนช่วยถือแผ่นกระดาษทึบแสง มาบังคัดแสง ไฟแฟลชที่ย้อนแสง โดยให้ห่างจากตัวกล้องประมาณ 30-50 ซม. การถ่ายภาพย้อนแสงในลักษณะนี้ ถึงแม้จะใช้เลนส์ฮูดก็อาจจะไม่สามารถป้องกันแสงแฟร์ได้ทั้งหมด แต่ปัจจุบันก็เป็นเรื่องโชคดี ของน้องๆ ที่ใช้เลนซ์รุ่นใหม่ๆ มีโค้ตติ้งป้องกันแสงสะท้อน สามารถตัดแสงแฟร์ออกไปได้มาก ปัญหาเรื่องนี้ก็เลยไม่ใช่ปัญหาใหญ่เท่าไรนัก แต่ในบางกรณีแสงที่แฟร์เข้ามาเป็นดวงๆ กลับทำให้ภาพสวยงาม และดูแปลกตามากขึ้น
จากนั้นก็ครอปภาพเข้าไปให้ใกล้หน่อย โดยเน้นที่ใบหน้าแล้วค่อยๆ ไล่ค่ารูรับแสงให้สีผิว ที่ใบหน้า ในฝั่งที่มีแผ่นรีเฟล็กดีดแสงสะท้อนกลับให้มีสีผิวที่ตรงกับตัวแบบ เพื่อให้ได้ค่า Normal Exposure เพียงแค่นี้คุณก็จะได้ภาพที่สวยงามแล้วครับ